มาเเล้วจ้า!!!
บทสัมภาษณ์สองหนุ่มไทย จากเมืองดูไบ และอาบูดาบี
แบดิง หรือนูรุดดีน เจ๊ะเด็ง รุ่นพี่สุดเท่ นักปั่นจักรยาน ที่กําลังจะเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัย Mohammed V (ชื่อมหาวิทยาลัย มูฮัมหมัด ที่ 5,ชื่ออย่างเท่อ้าาาา) และ น้องนาอิ้ล อีซา หนุ่มน้อยวัยเพิ่งจะ 20 ที่ตัดสินใจทํางานจากการเชื้อเชิญจากบริษัทใหญ่ระดับต้นๆของดูไบ...
เเละเเล้วหนุ่มน้อยนาอิ้ลก็มาถึง ด้วยท่าทางเขร่งขรึม ดูเท่ๆตามสไตล์ของน้องเขา น้องอิ้ลเป็นคนพูดน้อยแต่ถ้าเค้าพูดทีจะมีความฮามากๆๆๆ ยิ่งถ้าชวนคุยเรื่องซีรีย์เกาหลีเเล้วหล่ะก็ คืนนี้คงจะต้องคุยกันยาวๆ
ตามมาด้วยรุ่นพี่อารมณ์ดี แบดิง หรือน้องดีน ที่เวลาไปไหนมาไหน ใบหน้าเค้าจะยิ้มอยู่ตลอดเวลาราวกับว่าโลกนี้ไม่เคยมีปัญหาอะไรให้หนักใจเลยทั้งนั้น (แลดูเหมือนว่าเป็นตัวมิ้นท์เองเวอร์ชั่นผู้ชาย ฮ่าๆๆๆ)
น้องนาอิ้ล / มิ้นท์ / น้องดีน ณ La Mer
แม้ทั้งสองหนุ่มจะมีบุคลิกที่ค่อนข้างต่างกันมาก แต่ขอบอกว่าเค้ามีจุดเริ่มต้นในยูเออีจุดเดียวกัน คือการมาเรียน ม. 1 ที่เมือง Al Ain และอยู่ที่ยูเออียาวมาจนถึงปัจจุบัน จึงไม่ต้องทดสอบความสามารถทางด้านภาษาอาหรับ เพราะน้องทั้งสองน่าจะพูดเหมือนคนพื้นเมืองที่นี่เเล้ว.....
วันนั้นเรานัดกันกับน้องๆ นักเรียนอีก10 กว่าคน ที่ร้านชาบูแห่งหนึ่งในดูไบ แต่บังเอิญสองคนนี้นั่งใกล้ พวกเราเลยนั่งเม้ามอยกันไปเรื่อย....
นั่งอยู่ในร้านชาบูกว่า 5 ชั่วโมง เราก็โม้กันไม่หมด จนเจ้าของร้านขอเชิญให้พวกเรากลับ ฮ่าๆๆๆๆ พวกเราเลยนั่ง metro ไปเดินคุยที่ La Mer สถานที่สุดชิคกันต่อ
ณ ร้านชาบู ที่ไล่เรากลับ ฮ่าๆๆๆๆ
สิริรวมเวลาโม้ของพวกเราก็ราวๆ 8 ชั่วโมง วันนั้นเราถึงบ้านกันเช้าเลยหล่ะครับ ฮ่าๆๆๆๆ
…................................................................................
ถ้ามิ้นท์เขียนหมดทุกสิ่งที่เราคุยกันคงจะได้หนังสือเล่มนึงพอดี มิ้นท์เลยตัดบางส่วนของการเม้ามอยของพวกเรามาให้ท่านผู้อ่าน
…...หวังว่าจะเป็นประโยชน์ เเละสร้างแรงบันดาลใจให้ทุกท่าน ไม่มากก็น้อยนะเจ้าคะ........
…................................................................................
เริ่มจากน้องดีน หนุ่มอาบูดาบีก่อนเลยเเล้วกัน....
กาลครั้งหนึ่ง (ไม่) นานมาเเล้ว....มิ้นท์กับน้องดีน พบกันครั้งเเรกเมื่อปี 2016 ตอนนั้นน้องเค้ามาเป็นล่ามภาษาอาหรับให้มิ้นท์ แต่เรายังไม่สนิทกันมาก จนเรามาพบกันอีกครั้งปี 2017 ด้วยความสามารถทางด้านภาษาอาหรับอันเก่งกาจ น้องดีนก็มาเป็นล่ามเหมือนเดิม แต่คราวนี้เราพอจะมีโอกาสได้พูดคุยกันมากขึ้น และจากการที่มิ้นท์ชื่นชมน้องในเรื่องของการมีวินัย ทั้งเรื่องเรียน และเรื่องการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เราก็เลยซี๊กันไปเลย ฮ่าๆๆๆ........
มิ้นท์:ไหนเล่าหน่อย มาจากไหน ทําไมมาเรียนอยู่ยูเออีได้ แล้วมาอยู่นี่กี่ปีระค้าบ?
น้องดีน:ผมเป็นคนจังหวัดสงขลา ตอนนั้นที่โรงเรียนประถมที่ผมเรียนอยู่ เค้ามีทุนให้มาเรียนในยูเออี ผมเลยมาเรียนอยู่ที่นี่ตอน ม.1
ตอนมาเเรกๆเรียนอยู่โรงเรียนมัธยมที่ Al Ain ครับ เมืองสงบๆเงียบๆ ไม่ศิวิไลซ์เหมือนอาบูดาบี หรือดูไบหรอกครับ.......ตอนนี้ผมก็อยู่ที่ยูเออีมาราวๆ10 ปีแล้ว
น้องดีนกับชุดคันดูร่า ชุดพื้นเมืองของยูเออี
มิ้นท์:ได้ข่าวว่ามาเเรกๆ เด๋อเลยใช่เปล่าค้าบ? อิอิ :-p
น้องดีน: ก็เรื่องภาษาแหล่ะครับ เพราะมาที่นี่ผมภาษาอาหรับยังไม่ได้ อังกฤษยังไม่ได้ ที่สําคัญ ผมพูดไทยไม่ค่อยได้อีก!!!! เพราะที่บ้านผมพูดมลายูกัน
โอ้โห....จุดนี้เลยทําให้โดนแกล้งหลายเรื่องเลย เพราะผมสื่อสารภาษาไทยก็ยังไม่รู้เรื่อง!!!!
มิ้นท์:พูดไทยไม่ได้เลยโดนแกล้งเลย?
น้องดีน:ก็ประมาณนั้นครับ รุ่นพี่ผมเค้าไม่ชอบให้เราพูดมลายูกัน บางครั้งก็โดนตีเลย ผมเลยต้องพยายามที่จะสื่อสารภาษาไทยให้ได้ แรกๆผมคุยกับพี่ๆเค้า ผมถามเค้าว่า.......
“ระยะทางไปมัสยิด นี่กี่กิโลกรัม???”
ผมนี่โดนตบเลย พี่เค้าถามว่าผมเป็นคนไทยอยู่มั๊ย???.....พอไปเรียนเรื่องภาษาอาหรับก็ไม่ต้องพูดถึง ยังไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่โอ้โห!!!ต้องเรียนอังกฤษอีก แล้วผมก็ต้องมาอ่านภาษาอังกฤษให้รุ่นพี่ฟัง เสี่ยงโดนตบไปอีก ฮ่าๆๆๆๆ
มีครั้งนึง ผมอ่านคําว่า “type” (ไทป์) ผมออกเสียงว่า"ไท-เป"ผมโดนดุเรื่องนั้น จนวันนี้ผมไม่เคยลืม แต่ละคําที่ผมโดนด่ามาเลยครับ ก็เลยเป็นเรื่องดีอย่างหนึ่ง เมื่อเวลาผ่านไป ก็ทําให้เราไม่กลับไปผิดซํ้า....
.....จากนั้นมันก็คือการมีวินัย การฝึกตัวเอง เรียนรู้ทั้งสามภาษาด้วยกัน ไทย อาหรับ และอังกฤษ
ถือว่าเป็นการต้องปรับตัวครั้งยิ่งใหญ่สําหรับเด็กมัธยมต้นเลยครับ.....
มิ้นท์: เอาจริงป่ะ...คือตอนนี้น้องดีนพูดไทยชัดมากอ่ะ ตอนเเรกพี่นึกว่าน้องดีนพูดมลายูไม่ได้ด้วยซํ้า!!!
น้องดีน: ก็นี่เเหล่ะครับข้อดีที่มาอยู่ตั้งเเต่เด็กๆ เลยได้ฝึกพูดภาษาไทย ก็อย่างที่บอก รุ่นพี่ผมไม่ชอบให้พูดมลายูเลยจริงๆ ก็เลยเป็นเเรงผลักดันทําให้ผมพูดไทยชัดเลย
มิ้นท์: พี่ขอถามหน่อย มีข่าวว่า มหาลัยที่น้องดีนเรียนอยู่ ให้เงินเดือนถึง 6,000 ดิรฮัม (ประมาณเกือบๆ 60,000บาท/เดือน) ฟรีค่าอาหาร และที่พัก จริงอ่ะเปล่า??? ฮ่าๆๆๆ พี่ขอถามข่าวเม้านิดนึง อยากรู้ว่าอาบูดาบีรวยขนาดไหนอ่ะนะ!!
น้องดีน: ฮ่าๆๆๆๆ ก็จริงครับ แต่ว่าเค้าไม่ได้ให้มั่วๆนะครับ เค้ามีกฏเกณฑ์ว่าต้องได้เกรดเท่าไหร่ และประพฤติตัว ยังไง เเบบบางทีมาสาย ขาดเรียน ก็โดนหักเงินไปเรื่อยแหล่ะครับ ส่วนผมหลุดเกณฑ์ 6,000 นั้นไปแล้วครับ (ยิ้มอ่อนให้พี่มิ้นท์;-)
มิ้นท์:โอ้ ว้าวววว....อยากสมัครเรียนมหาลัยนี้จัง แต่อายุคงเกินแน่นอน!!!! กิกิ (รู้ตัวๆ)
มิ้นท์: ตั้งเเต่อยู่ที่นี่ เคยมีปัญหาอะไรใหญ่ที่สุด เเล้วน้องดีนผ่านมันมาได้ยังไง?
น้องดีน: ปัญหาที่ผ่านไปได้.......ผมเป็นคนโชคดีอย่างนึงครับ ที่ทุกอย่างมันไปได้ด้วยดีหมด เช่นเรื่องเรียน เรื่องเพื่อน เรื่องครอบครัว...แต่ถ้าอุปสรรคหลักๆที่ต้องผ่านไปให้ได้ ก็คือช่วงที่ผมรับทำงานพาร์ทไทม์ครับ
ช่วงนั้นปิดเทอมใหญ่ (หัวใจว้าวุ่นป่ะ??? แซวๆ) แต่ผมรับจ๊อบมาเป็นล่ามให้กับบริษัทไทยมาติดตั้งโรงงานกลางทะเลทราย ซึ่งช่วงนั้นก็เป็นหน้าร้อน ผมต้องทำงานช่วยพี่ ๆเชื่อมเหล็ก และแปลภาษา
ให้เจ้าของโรงงานไปด้วย เราทำงานตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็น!!
"....ผมแอบร้องไห้เกือบทุกคืน......"
ด้วยความที่ยังเด็ก ตอนนั้นผมอยู่ ม.5 ครับ...แต่ผมก็อดทนจนผ่านจุดๆนั้นไปได้ (โอ๋นะๆ T_T พี่มิ้นท์คิดภาพไม่ออกเลยจริงๆว่าน้องดีนร้องไห้เป็นไง)
มิ้นท์: พี่เห็นน้องดีนไปปั่นจักรยานบ่อยๆ เห็นจริงจังมาก ดู coolสุดๆ
น้องดีน: ดูเท่นั่นก็ส่วนนึง แต่การไปปั่นจักรยานเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตผมเหมือนกัน ปกติผมเป็นคนไม่ค่อยกล้าเท่าไหร่ จะอยู่กับสังคมเพื่อนๆตัวเองที่โรงเรียน ที่มหาลัย พอไปปั่นจักรยานก็ได้มีโอกาสไปเข้ารวมกลุ่มกับพี่ๆคนไทยที่มีหน้าที่ตําแหน่งการงานที่ดี ได้เจอคนเอมิเรตส์แท้ๆ ร่วมปั่นจักรยานเป็นเพื่อนไปกับพวกเค้า บางท่านมีตําแหน่งสูงมาก ตอนแรกเราไม่คิดว่าเราจะมีโอกาสได้คบกับคนระดับนี้ แต่พอมาปั่นจักรยานก็ได้รู้จักกัน พอเค้ารู้ว่าเราพูดอาหรับได้ก็ยิ่งทําให้เค้าสนิทใจที่จะคบกับเรา
น้องดีน กับนักปั่นยูเออี
.....การมาปั่นจักรยาน ทําให้ผมได้มาสัมผัสอีกโลกหนึ่ง
ที่ผมไม่คิดว่าจะได้เคยสัมผัส.....
อย่างที่พี่เห็นผมก็ชอบการไปปั่นจักรยานมาก จนพักหลังๆผมมาคิดเหมือนกันว่าการไปปั่นจักรยานทําให้ผมห่างเหินจากเพื่อนๆน้องๆ ที่มหาวิทยาลัยไปบ้าง ตอนนี้ผมคิดได้เเล้ว ก็เลยพยายามเเบ่งเวลาไม่ให้มากระทบความสัมพันธ์กับเพื่อนๆของผมด้วย....เรื่องจักรยานก็เป็นสิ่งที่ชอบ แต่เรื่องความสัมพันธ์กับเพื่อนๆก็สําคัญ ผมต้องจัดการให้ดี....
ว้าวๆ ได้ปั่นกับท่าน เชค หลานชายของเชคคาลิฟา ประธานาธิบดียูเออีด้วยอ่า!!!
มิ้นท์: ชอบมั๊ย อยู่ที่ยูเออี?
น้องดีน:ผมชอบมากครับเพราะผมอยู่มานานจนเหมือนบ้านเเล้ว นี่จะเรียนจบอีกหนึ่งเทอม ผมไม่อยากเรียนจบเลย ตอนนี้เลยว่าจะหาทางอยู่ต่อ ผมน่าจะสมัครงานทําที่นี่ก่อนสักพัก
มิ้นท์: มีอะไรอยากฝากถึงน้องๆที่อยากมาเรียนที่ยูเออีมั๊ย?
น้องดีน: สำหรับน้องๆที่ตั้งใจจะมาเรียนที่ยูเออี...ถ้าน้องได้มาแล้ว พี่ก็ขอให้น้องใช้โอกาสตรงนี้ให้คุ้มค่ามากที่สุด เรียนด้วย เที่ยวไปด้วย ลองทำสิ่งใหม่ๆดูบ้าง แล้วสิ่งใหม่ๆจะเข้ามาในชีวิต แล้วเราจะมองเห็นโอกาสอีกมุมนึงที่กว้างขึ้น
ชุดพร้อม ใจพร้อมกว่า เย้!
มิ้นท์: พี่ก็ใจหายเหมือนกันนะ ถ้าพี่มายูเออีเเล้วน้องดีนจะไม่อยู่ที่นี่ แล้วตอนนี้แพลนว่าจะอยู่ที่นี่ยังไง?
น้องดีน: ผมก็จะลองสมัครงานดูหลายๆที่นะครับ หรือก็อาจจะหาทุนเรียนต่อไปอีก แต่ความฝันของผมส่วนหนึ่งคืออยากลองสอบกระทรวงต่างประเทศเพื่อทํางานสถานทูตดูครับ ผมน่าจะชอบงานระหว่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศอาหรับ ผมจะลองดูครับ.....
….........เท่าที่พี่รู้จักน้องมา คิดบวก แววตาเป็นประกายขนาดนี้
พี่ว่าน้องสามารถเป็นได้ทุกอย่างที่อยากเป็นนั่นแหล่ะ
Inshaallah พี่เอาใจช่วยเสมอๆ............
…................................................................................
แล้วพวกเราก็หยุดถ่ายภาพ ทําท่า "ซาวี ปากจู๋" ตามที่เห็นในภาพ
อยู่ประมาณเกือบ 20 นาที กว่าจะได้ท่าปากจู๋ในเเบบที่เราต้องการ ><”
ตอนนั้นเกือบตีหนึ่งเเล้ว เเต่พวกเรายังรู้สึกว่าสองทุ่มอยู่เลย
…................................................................................
เดี๋ยวมาต่อภาค 2 กับเรื่องราวของ
"น้องนาอิ้ล"
กับคํ่าคืนสุดฮาของพวกเรากันได้
อาทิตย์หน้านะขอรับ กระผมมมมม (^/\^)
…................................................................................
By อัลฮูดา ชนิดพัฒนา (มิ้นท์)
Website: whattoseeindubai.com
Email: whattoseeindubai@gmail.com
IG: whattoseeindubai
Comments